Matthews International เข้าซื้อกิจการ OLBRICH GmbH และ R+S Automotive GmbH เพื่อขยายขีดความสามารถด้านวิศวกรรมสำหรับพลังงาน

พิตต์สเบิร์ก, Aug. 17, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — Matthhews International Corporation(NASDAQ GSM: MATW) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการบริษัทวิศวกรรมสัญชาติเยอรมัน OLBRICH GmbH (“OLBRICH”) และ R+S Automotive GmbH (“R+S Automotive”) ตามที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ลุล่วงแล้ว โดยมีมูลค่า 43 ล้านยูโร ( 45 ล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณ)

OLBRICH มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโบโคลต์ ประเทศเยอรมนี โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์การประมวลผลแบบหมุนที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตขั้วไฟฟ้าแบบแห้งและแบบเปียกสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและส่วนประกอบสำหรับเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และอิเล็กโทรไลเซอร์ พร้อมทั้งยังมีตำแหน่งทางการตลาดอันแข็งแกร่งเพิ่มเติมในเรื่องของผลิตภัณฑ์พิเศษและยา บรรจุภัณฑ์ และของตกแต่งบ้าน R+S Automotive เป็นผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมเฉพาะทางสำหรับแนวคิดเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ โรงงาน และเครื่องมือให้กับบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก บริษัทมีแผนที่จะรวม OLBRICH และ R+S Automotive เข้ากับธุรกิจ Saueressig Engineering and Energy ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมที่มีความแม่นยำสูงสำหรับการใช้งานระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงโซลูชันด้านพลังงานแบบกำหนดเองที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง พื้นผิว การทำเครื่องหมาย และระบบการพิมพ์รหัส

Joseph C. Bartolacci ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Matthews International กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าซื้อกิจการของทั้ง OLBRICH และ R+S Automotive ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวของเราในการนำเสนอผลงานที่ขยายออกไปในด้านผลิตภัณฑ์และบริการด้านวิศวกรรมที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ สำหรับยานพาหนะไฟฟ้าที่กำลังเติบโตและตลาดพลังงานสีเขียวในวงกว้าง ความสามารถที่ผสมผสานกันของเราจะมอบโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมเพื่อเร่งการพัฒนาโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับการผลิตแบตเตอรี่แบบอิเล็กโทรดแห้งและโซลูชันด้านพลังงานอื่น ๆ ข้อเสนอของเราจะมีผลกระทบต่อการนำยานพาหนะไฟฟ้าไปใช้ในตลาดมวลชนอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโซลูชันด้านพลังงานทั้งหมด การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์นี้ทำให้การลงทุนด้านเทคโนโลยีของเราดำเนินต่อไป และเร่งการพาณิชย์นวัตกรรมใหม่ซึ่งครอบคลุมการใช้งานระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมที่หลากหลาย”

“Matthews เป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมสำหรับอนาคตของเราครับ” Bastian Kuhl ซีอีโอของ OLBRICH และ R+S Automotive กล่าว “OLBRICH เองก็กำลังมีความก้าวหน้าอย่างมากในการช่วยขยายการผลิตส่วนประกอบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเช่นเดียวกันกับ Matthews ด้วยคำสั่งล่าสุดของ OLBRICH ให้มีการทำสายการผลิตจำนวนมากสำหรับชั้นการแพร่กระจายของก๊าซ (GDL) และความแข็งแกร่งของ Matthews ในด้านเพลตสองขั้ว ทำให้ผลงานที่รวมกันของเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะสร้างแรงตลาด ซึ่งไม่เพียงแต่ในฐานะซัพพลายเออร์ให้กับ OEM เท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรด้านการผลิตที่สำคัญในด้านพลังงาน ผลิตภัณฑ์พิเศษและยา บรรจุภัณฑ์ และของตกแต่งบ้าน”

การเข้าซื้อกิจการของ OLBRICH และ R+S Automotive ทำให้ Matthews International ขยายธุรกิจไปทั่วโลกและเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในภาคส่วนโซลูชันด้านพลังงาน

เกี่ยวกับ Matthes International Corporation

Matthews International Corporation เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันของแบรนด์ต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์เพื่อเกี่ยวกับการระลึกถึง และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ภาคส่วน Industrial Technologies ได้ออกแบบ ผลิต บริการ และจัดจำหน่ายการจัดเก็บพลังงานแบบกำหนดเองที่มีเทคโนโลยีสูง การทำเครื่องหมาย การพิมพ์รหัส และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมและโซลูชันต่าง ๆ ภาคส่วน Memorialization เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อการระลึกถึง ซึ่งรวมถึง อนุสรณ์ โลงศพ การเผาศพและเตาอุปกรณ์สำหรับการเผา โดยเน้นไปยังลูกค้าที่ใช้วิธีการทำศพแบบฝังและใช้โรงศพเพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งจะช่วยให้ครอบครัวก้าวข้ามความเศร้าโศกและเปลี่ยนไปเป็นความทรงจำและความคิดถึงแทนได้ ภาคส่วน Solutions Brand SGK เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการแก้ปัญหาบรรจุภัณฑ์และการเพิ่มประสบการณ์แบรนด์ ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ลดความซับซ้อนในด้านตลาดและยังช่วยขยายการตลาดของแบรนด์และการเพิ่มมูลค่า บริษัทมีพนักงานประมาณ 11,000 คนในกว่า 26 ประเทศใน 6 ทวีปที่มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูงที่สุด

เกี่ยวกับกลุ่ม SAUERESSIG Group

SAUERESSIG Group รวบรวมหน่วยธุรกิจบรรจุภัณฑ์ อีลาสโตเมอร์ พื้นผิว วิศวกรรม ลูกกลิ้ง และ e.GEN ภายใต้แบรนด์ร่มทั่วไป SAUERESSIG Group เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับนานาชาติสำหรับขั้นตอนก่อนการกดและเครื่องมือโรตารี่สำหรับกระบวนการพิมพ์แผ่นแม่พิมพ์และเฟล็กโซกราฟี ลูกกลิ้งลายนูนและเครื่องมือตัดและรีด จึงกล่าวได้ว่าทางบริษัทได้นำเสนอความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมแบบเต็มรูปแบบ SAUERESSIG จะทำงานในโครงการวิจัยที่มองการณ์ไกล และลงทุนในการพัฒนาเวิร์กโฟลว์อัจฉริยะและโซลูชันดิจิทัล ในฐานะผู้ริเริ่มการสร้างเครื่องจักรพิเศษในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการจัดเก็บพลังงานแห่งอนาคต โซลูชันส่วนบุคคลก็จะได้รับการพัฒนาสำหรับผู้บุกเบิกแห่งอนาคต ผู้ผลิตแบรนด์ เครื่องพิมพ์ และคอนเวอร์เตอร์ รวมถึงผู้ผลิตเทคโนโลยีการจัดเก็บพลังงานสมัยใหม่ที่มีชื่อเสียงจะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมที่มุ่งเน้นด้านโซลูชัน ประสบการณ์หลายทศวรรษ และความยืดหยุ่นสูงสุด SAUERESSION Group มีเครือข่ายทั่วโลกที่แข็งแกร่งด้วยการมีที่ตั้งการผลิตถึง 13 แห่งในปัจจุบัน การมีที่ตั้งอยู่ทั่วโลกช่วยให้สามารถปรับปรุงพัฒนา ดำเนินการ และสนับสนุนโครงการระหว่างประเทศได้ตลอดเวลา

SAUERESSIG Group เป็นส่วนหนึ่งของ Matthews International Corporation (NASDAQ GSM: MATW) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม: www.saueressig.com

เกี่ยวกับ OLBRICH

OLBRICH GmbH ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 และร่วมกับแบรนด์ Polytype Converting® ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักร ทำให้ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกในด้านการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์รูปทรงใยแมงมุม ฟอยล์แบตเตอรี่ ฉลาก วัสดุลอกออก กระดาษแบบยั่งยืนและวัสดุบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนวัสดุปิดผนัง วัสดุปูพื้น เทปกาว และสิ่งทอทางเทคนิค เป็นผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่ผลิตขึ้นในสายการผลิต OLBRICH มีห่วงโซ่มูลค่าเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงวิศวกรรมและการผลิต อีกทั้งศูนย์เทคนิคที่ล้ำสมัยใน Bocholt (DE) และ Fribourg (CH) ปัจจุบัน OLBRICH มีพนักงานประมาณ 450 คน OLBRICH มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โบคลอท (เยอรมนี) และมีที่ตั้งเพิ่มเติมใน ฮัมบูร์ก (เยอรมนี) ฟรีบูรก์ (สวิตเซอร์แลนด์) และ เมืองเจียงอิน (จีน)

เกี่ยวกับ R+S Automotive

R+S Automotive GmbH เป็นผู้ผลิตเครื่องจักรและเครื่องมือต่าง ๆ ที่สำคัญในการผลิตส่วนประกอบภายในและภายนอกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น แผงประตู แผงหน้าปัด หรือชั้นวางด้านหลัง R+S Automotive มีห่วงโซ่มูลค่าที่ครบวงจร ซึ่งรวมถึงวิศวกรรมและการผลิต ตลอดจนศูนย์เทคนิคบนพื้นที่ 1,100 ตร.ม. ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับบริการด้านเทคนิคที่ครอบคลุมและการพัฒนาที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก ปัจจุบัน R+S Automotive มีพนักงานประมาณ 350 คน R+S Automotive มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โบคลอท (เยอรมนี) และมีสาขาเพิ่มเติมใน โฮลูปคอฟ (เช็กเกีย) เมืองเจียงอิน (จีน) และ คอมสต็อค พาร์ก มิชิแกน (สหรัฐอเมริกา)

ข้อมูลเชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ที่พบได้จากข่าวประชาสัมพันธ์นี้รวมอยู่ด้วยตามบทบัญญัติ “การปกปิดข้อมูล” ของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงและความไม่แน่นอนทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงของบริษัทในช่วงเวลาในอนาคตแตกต่างไปจากที่ฝ่ายบริหารคาดการณ์ไว้อย่างมาก ถึงแม้ว่าทางบริษัทมีความเชื่อว่าความคาดหวังที่มาจากข้อความการคาดการณ์ล่วงหน้านั้นฟังดูสมเหตุสมผล แต่ก็ไม่อาจจะให้การรับรองรวมถึงความคาดหวังทีสามารถพิสูจน์ได้ว่าถูกต้อง ปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ของบริษัทแตกต่างออกไปจากผลลัพธ์ที่กล่าวถึงในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจในประเทศหรือระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงต้นทุนของวัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงของอัตราการเสียชีวิตและอัตราการเผาศพ การเปลี่ยนแปลงในความต้องการสินค้าหรือราคาผลิตภัณฑ์อันเป็นผลมาจากการควบรวมกันของกิจการในอุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินการอยู่ หรือเพราะปัจจัยอื่น ๆ เช่น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การขาดแคลนแรงงานหรือการเพิ่มขึ้นของต้นทุนแรงงาน การเปลี่ยนแปลงในอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์หรือการเปลี่ยนแปลงราคาอันเป็นผลจากแรงกดดันจากการแข่งขันในประเทศหรือต่างประเทศ ความสามารถการบรรลุวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุน ความเสี่ยงที่ไม่ทราบที่มาซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการของบริษัท ข้อกังวลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ประสิทธิภาพของการควบคุมภายในของบริษัท การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจัยทางเทคโนโลยีที่นอกเหนือจากการควบคุมของบริษัท ผลกระทบของโรคระบาดหรือการระบาดที่คล้ายคลึงกัน หรือการหยุดชะงักอื่น ๆ ในด้าน อุตสาหกรรม ลูกค้า หรือซัพพลายเชนของเรา ผลกระทบของความขัดแย้งในระดับโลก เช่น สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ตามที่อธิบายไว้ในรายงานประจำปีของบริษัทในแบบฟอร์ม 10-K และการยื่นเอกสารตามระยะเวลาอื่น ๆ กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: Steven F. Nicola

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน

412.442.8262

สำหรับฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ :

William D. Wilson

ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์

412.325.8418