Graid Technology Announces SupremeRAID(TM) SE Beta Program, Delivering Enterprise-Level Data Protection & Performance to Workstation and Desktop Users

Graid Technology extends its award-winning SupremeRAID™ software in a "bring your own GPU" deployment model.

SANTA CLARA, CA / ACCESSWIRE / June 3, 2024 / Graid Technology, an industry trailblazer in GPU-based RAID for NVMe and creators of groundbreaking SupremeRAID™, today announced the closed beta testing program for a new product line – SupremeRAID™ SE. With a focus on high-end workstations and consumers, SupremeRAID™ SE allows for enterprise-grade RAID data protection at the desktop level.

SupremeRAID™ SE enables professionals to harness their existing GPU hardware to configure high-performance and highly resilient RAID setups easily. The solution supports between 4 and 8 NVMe drives, making it ideal for users who require robust data management without the complexity of traditional RAID configurations.

"We proudly present the SupremeRAID™ SE beta program, now open to the public. SupremeRAID™ SE is remarkable for its ability to let users leverage their existing GPU to develop a customized RAID environment that delivers the complete performance potential of NVMe SSDs," said Leander Yu, CEO of Graid Technology. "Furthermore," Yu added, "SupremeRAID™ SE optimizes CPU resources for all applications on users’ workstations or desktops, enhancing its overall value."

SupremeRAID™ SE is engineered for applications where speed and data integrity are critical:

  • AI and Machine Learning: Speed up model training and experiments with fast data throughput and minimal latency.
  • Multimedia Production: Enhance editing and production capabilities with accelerated data processing.
  • Engineering and Design: Access and manage large engineering files efficiently and reliably.
  • Scientific Computing: Handle large datasets with ease, whether for computational biology, physics simulations, or other research-intensive tasks.

SupremeRAID™ SE supports both Windows and Linux platforms, as well as several GPU models. For more information or to enroll in the beta program, visit https://beta.graidtech.com. General product availability is planned for July 2024.

______________________________

About Graid Technology and SupremeRAID™ / Graid Technology, led by a dedicated team of experts with decades of experience in the SDS, ASIC, and storage industries, continues to push boundaries in data storage innovation. SupremeRAID™, hailed as the world’s only NVMe and NVMeoF RAID card to unlock the full potential of PCIe 3, 4, and 5 SSD performance, eliminates traditional RAID bottlenecks, leveraging GPU acceleration to maximize enterprise SSD performance. The company’s headquarters in Silicon Valley, supported by an R&D center in Taiwan, symbolizes our global commitment to pioneering advancements in storage solutions. Visit our website or connect with us on LinkedIn.

Contact Information

Andrea Eaken
Director of Marketing, Americas & EMEA | Graid Technology
andrea.eaken@graidtech.com
949-742-9928

SOURCE: Graid Technology Inc.

.

View the original press release on newswire.com.

รายงาน GBCI: จีนแผ่นดินใหญ่จัดอยู่ในเขตอำนาจศาล APAC ที่ซับซ้อนที่สุดในการทำธุรกิจ เขตปกครองพิเศษฮ่องกงยังคงเป็นประเทศใน APAC ที่มีความซับซ้อนน้อยที่สุดในการลงทุน

ลอนดอน, June 03, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — TMF Group ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการบริหาร ได้เปิดตัว Global Business Complexity Index (GBCI) ฉบับที่ 11 ในวันนี้ รายงานประจำปีวิเคราะห์เขตอำนาจศาล 79 แห่งทั่วโลก โดยนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับมุมมองสำคัญในการดำเนินธุรกิจทั่วโลก

จีนแผ่นดินใหญ่จัดอยู่ในอันดับที่ 11 ในฐานะเขตอำนาจศาล APAC ที่ซับซ้อนมากที่สุดใน GBCI ของปีนี้ โดยขยับขึ้นจากอันดับที่ 15 ในปี 2023 ตามมาด้วยคาซัคสถานในอันดับที่ 10 และอินโดนีเซียในอันดับที่ 16 และเกาหลีใต้ในอันดับที่ 19 การศึกษาในปีนี้พบว่า ความซับซ้อนของจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากการแปลใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ในการบัญชีเป็นภาษาท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่ข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการจัดการและการจัดเก็บถาวรทางดิจิทัล

ความซับซ้อนที่ลดลงของอินโดนีเซียเกิดจากความเรียบง่ายในการเข้าสู่ตลาด เช่น การลดข้อกำหนดด้านเงินทุนในการรวม การลดการจ่ายเงินชดเชย และการแนะนำแผนวีซ่าทองคำ

ในขณะเดียวกันเขตปกครองพิเศษฮ่องกงก็ได้ปรับปรุงอันดับ GBCI ของปีนี้ จากอันดับที่ 74 ในปี 2023 และ 2022 มาเป็นอันดับที่ 76 ในปี 2024 โดยยังคงรักษาตำแหน่งในฐานะศูนย์กลางเอเชียที่สำคัญและในฐานะเขตอำนาจศาล APAC ที่ซับซ้อนน้อยที่สุดในการศึกษานี้ แม้ว่าวิธีการธนาคารของประเทศสามารถเพิ่มความซับซ้อนในการจัดตั้งธุรกิจ แต่ระบบภาษีที่ต่ำและตรงไปตรงมายังคงน่าสนใจ นอกจากนี้ ประเทศยังได้นำ AI มาใช้และการจ้างบุคคลภายนอกเพื่อจัดการปัญหาความต้องการเงินเดือนที่สูง

ภายในเขตอื่นๆ ของภูมิภาค APAC การนำระบบใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ของมาเลเซียมาใช้กำลังช่วยปรับกระบวนการทางการเงินให้คล่องตัว ลดต้นทุน และเพิ่มความโปร่งใส ในทำนองเดียวกัน ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของเวียดนาม เช่น การยื่นรายงานภาษีออนไลน์ ยังช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนให้กับธุรกิจอีกด้วย

แต่สำหรับที่อื่นๆ นั้น หน่วยงานสตาร์ทอัพในฟิลิปปินส์ยังคงเห็นความล่าช้าในการได้รับใบอนุญาตและการจดทะเบียน เนื่องจากขาดการกำหนดมาตรฐานในเรื่องกฎหมายและข้อบังคับใหม่ คล้ายกันกับในประเทศไทย ยังคงมีความท้าทายขั้นรุนแรงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยมีข้อจำกัดเกี่ยวกับบริษัทต่างชาติที่ก่อตั้งธุรกิจโดยเป็นเจ้าของอย่างเต็มรูปแบบในประเทศ

Shagun Kumar หัวหน้าประจำภูมิภาค APAC ของ TMF Group กล่าวว่า

The Global Business Complexity Index (GBCI) ยังคงเป็นรากฐานสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความซับซ้อนของธุรกิจภายในเขตอำนาจศาลหลักๆ ทั่วโลก ในปีนี้เขตปกครองพิเศษฮ่องกงยังคงรักษาตำแหน่งของตนในฐานะเขตอำนาจศาล APAC ที่ซับซ้อนน้อยที่สุด ในขณะที่ประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้ปรับปรุงอันดับของตนหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ภูมิภาค APAC ยังคงทำหน้าที่เป็นหนึ่งในตัวเร่งหลักของการเติบโตสำหรับทั้งลูกค้าและองค์กรของเราเอง และผมหวังว่า รายงานนี้จะยังคงเป็นแหล่งข้อมูลอันล้ำค่าสำหรับผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจและนักวิจัย”

สิบอันดับแรกและสุดท้าย (1 = ซับซ้อนที่สุด, 79 = ซับซ้อนน้อยที่สุด)

1        กรีซ

2        ฝรั่งเศส

3        โคลอมเบีย

4        เม็กซิโก

5        โบลิเวีย

6        ตุรกี

7        บราซิล

8        อิตาลี

9        เปรู

10      คาซัคสถาน

70        จาเมกา

71        หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน (BVI)

72        เจอร์ซีย์

73        สหราชอาณาจักร

74        เนเธอร์แลนด์

75        นิวซีแลนด์

76        เขตปกครองพิเศษ ฮ่องกง

77        เดนมาร์ก

78        คูราเซา

79        หมู่เกาะเคย์แมน

ติดต่อด้านสื่อ

TMF Group:

Giampaolo Arghittu
giampaolo.arghittu@tmf-group.com

Zulfadhli Ibrahim
zulfadhli.ibrahim@tmf-group.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000964198

Eastman School of Music ของ University of Rochester ได้รับเลือกให้มีรายชื่อยู่ในการจัดอันดับ QS World University Rankings

รอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก, June 03, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Eastman School of Music ของ University of Rochester ได้รับเลือกให้มีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับ QS World University Rankings ประจำปี 2567 Eastman อยู่ในอันดับที่ 3 ในอเมริกาเหนือและอันดับที่ 11 ของโลก ร่วมกับสถาบันดนตรีชั้นนำต่าง ๆ ในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และฮังการี

เป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษแล้วที่ Eastman School of Music เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศในด้านการศึกษาและการแสดงดนตรี Eastman สร้างขึ้นจากเสาหลักพื้นฐานแห่งศิลปะ ทุนการศึกษา ความเป็นผู้นำ และชุมชน โดยได้ปลูกฝังสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยที่ดนตรีไม่เพียงแต่งอกงามในห้องโถงของเราเท่านั้น แต่ยังสะท้อนก้องกังวานไปไกลกว่านั้น โดยช่วยยกระดับชีวิตและส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้วย โรงเรียนมีชื่อเสียงในด้านแนวทางการศึกษาดนตรีแบบองค์รวม โดยบูรณาการการฝึกอบรมดนตรีที่เข้มงวดเข้ากับการศึกษาด้านมนุษยศาสตร์ การศึกษาความเป็นผู้นำ และประสบการณ์แบบสหวิทยาการ ความมุ่งมั่นในการศึกษาแบบครอบคลุมนี้ผลิตบัณฑิตที่ไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีที่มีทักษะเท่านั้น แต่ยังเป็นบุคคลผู้รอบรู้ที่พร้อมที่จะใช้ความสามารถของตนเพื่อสร้างอิทธิพลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกได้อีกด้วย

Dean Jamal J. Rossi ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักปฏิบัติของโรงเรียนและการได้รับเกียรติล่าสุดว่า: “Eastman School of Music เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวาซึ่งนักดนตรีที่เก่งที่สุดในโลกมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันและทำให้ทุกคนพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น การอุทิศตนมานานนับศตวรรษของเราต่อค่านิยมหลักในศิลปะ ทุนการศึกษา ความเป็นผู้นำ และชุมชนได้ทำหน้าที่เป็นรากฐานที่ทำให้ศิษย์เก่าของเราได้สร้างเส้นทางอาชีพของตนที่มีผลกระทบในทุกด้านของดนตรี และพวกเขาได้ทำให้โลกสมบูรณ์ขึ้นผ่านดนตรีของตน การได้รับการยกย่องจาก QS World Rankings นี้ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและพันธกิจของเราในการกำหนดอนาคตของดนตรีผ่านความเป็นเลิศทางศิลปะและวิชาการ ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม”

Jane Gatewood รองอธิการบดีฝ่ายการมีส่วนร่วมระดับโลกของมหาวิทยาลัย Rochester ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของความสำเร็จนี้ว่า: “การที่ Eastman School of Music ได้รับการยอมรับจาก QS World Rankings นั้นเป็นการตอกย้ำถึงผลกระทบระดับโลกและชื่อเสียงทางวิชาการของเรา การได้รับการยกย่องนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของคณาจารย์และความสามารถของนักศึกษา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทผู้นำของเราในการเตรียมนักดนตรีระดับโลกในรุ่นถัดไป”

ในปีนี้ QS World University Rankings ได้รวมหมวดหมู่ดนตรีไว้ในการจัดอันดับเป็นครั้งแรก การจัดอันดับ QS สำหรับโรงเรียนดนตรีมีการให้คะแนนจากการประเมินชื่อเสียงทางวิชาการและชื่อเสียงของผู้ว่าจ้างอย่างครอบคลุม โดยคิดเป็นคะแนน 80% และ 20% ของคะแนนทั้งหมดตามลำดับ เกณฑ์ต่าง ๆ เช่น คุณภาพการวิจัย ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ นวัตกรรม และความสามารถในการจ้างงานต่างก็มีบทบาทสำคัญในการประเมินนี้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดอันดับ QS World University ในด้านดนตรีนั้น โปรดไปที่: https://www.topuniversities.com/university-subject-rankings/music

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Eastman School of Music ของ University of Rochester โปรดไปที่: https://www.esm.rochester.edu/admissions/

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับเข้าเรียนในระดับนานาชาติและความร่วมมือระดับโลก โปรดไปที่: https://www.rochester.edu/global

หากสื่อมวลชนต้องการสอบถามและการขอข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

  • Jessica Kaufman ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร jkaufman@esm.rochester.edu
  • Daniella Sussman ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศ daniella.sussman@rochester.edu

สามารถดูรูปภาพประกอบประกาศนี้ได้ที่

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/fc838c64-e5c1-4c99-9708-5c653b199036

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/141ec48f-eba8-4eff-ae70-cff9d1a71b75

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/3eae0e9f-bc51-4d02-963f-adc8c95fc60a

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/3d931016-bc75-47e2-8c7b-a7121abd78e0

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/3715b139-5119-49cb-882b-f61f94ab4749

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/51d967a7-c638-44cf-8b77-2c3dac0b456d

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/109eb861-fe31-4be4-ba43-a652dd41a6b8

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/6152f154-cb29-4a44-87ed-2bf74e8ba574

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/b7ccb1fa-1f45-4f27-9fd5-9b90b6a12efe

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/f06c52ea-9c62-44df-b114-7fc6442ef2c7

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/e1dc375a-b774-4e3e-888e-8ede4a2d6762

GlobeNewswire Distribution ID 9147200

Duck Creek Technologies เสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะในตลาดเอเชียแปซิฟิกด้วยการแต่งตั้ง Christian Erickson ให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป

ซิดนีย์, June 03, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — วันนี้ Duck Creek Technologies ผู้ให้บริการโซลูชันอัจฉริยะที่กำหนดอนาคตของทรัพย์สินและอุบัติเหตุ (P&C) และการประกันภัยทั่วไป ได้ประกาศแต่งตั้ง Bindu Crandall ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) Erickson จะดูแลเฟสใหม่ของการลงทุนในภูมิภาค และกระชับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้าและพันธมิตรที่มีอยู่ปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น

Erickson เป็นผู้นำซอฟต์แวร์ระดับองค์กรและบริการระดับมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี และได้นำความเชี่ยวชาญที่หลากหลายมาสู่ Duck Creek ภูมิหลังที่กว้างขวางของเขาครอบคลุมการทำงานในหลายภูมิภาค ซึ่งรวมถึง เอเชียแปซิฟิก สหราชอาณาจักร และอเมริกาเหนือ Erickson เข้าร่วมงานกับ Duck Creek โดยย้ายมาจาก Versent ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเติบโต โดยร่วมมือกับบริษัทภาครัฐและเอกชนชั้นนำในออสเตรเลียเพื่อบูรณาการความสามารถด้านคลาวด์ ดิจิทัล ข้อมูล และความปลอดภัย เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่โดดเด่น

ก่อนดำรงตำแหน่งที่ Versent นั้น Erickson ดำรงตำแหน่งผู้นำที่ Cognizant โดยมีหน้าที่ดูแลทีมงานด้านการธนาคาร บริการทางการเงิน และการประกันภัย (BFSI) และที่เคยปฏิบัติงานที่ Accenture ในฐานะส่วนหนึ่งของทีมงานผู้นำด้านบริการทางการเงิน เขาได้ทำงานร่วมกับบริษัทประกันภัยและสถาบันการเงินรายใหญ่ในออสเตรเลียและต่างประเทศ โดยเป็นผู้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่สำคัญ เส้นทางในด้านอาชีพการงานของ Erickson เริ่มต้นที่ Andersen Consulting และ Ernst & Young หลังจากนั้นเขาได้เปลี่ยนไปทำงานในภาคเอกชนในด้านการจัดการและความเป็นผู้นำในบริษัทประกันภัย ซึ่งรวมถึง Aon, ING, Tenix และ Reinsurance Group of America (RGA)

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Duck Creek เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้แรงหนุนจากความร่วมมือกับลูกค้ารายใหม่ที่กำลังขยายตัว และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Duck Creek Reinsurance, Duck Creek Clarity และ Duck Creek Payments โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นการเติมเต็มโซลูชันให้ครบวงจร Erickson มีประสบการณ์ที่หลากหลายที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดการการลงทุนที่สำคัญในด้านทรัพยากร ผู้คน และทักษะที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า Duck Creek ยังคงส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริหการตามคำมั่นสัญญาต่อลูกค้าในปัจจุบัน และในขณะเดียวกันก็มีความสามารถในการส่งมอบโซลูชัน บริการ และประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าใหม่ โดยใช้พื้นฐานด้านบริการซอฟต์แวร์ในหลายภูมิภาคที่กว้างขวางของเขา

“ด้วยการเติบโตและการดำเนินการของเรา Duck Creek จึงได้รับการจับตามองว่าเป็นผู้นำแบรนด์ที่เชื่อถือได้สำหรับลูกค้า P&C และลูกค้าประกันภัยทั่วไปมากขึ้น ความเฉียบแหลมในการเป็นผู้นำของ Christian และแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกผสมผสานกับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในภาคประกันภัย ทำให้เขาเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นหัวหอกในการลงทุนของ Duck Creek ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” Rohit Bedi หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Duck Creek กล่าว “ความเป็นผู้นำของ Christian จะเป็นหัวใจสำคัญในการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าของเราทั่วเอเชียแปซิฟิกและช่วยในการเติบโตของเราต่อไป”

Erickson ได้แสดงความมุ่งมั่นในการเข้าร่วม Duck Creek โดยกล่าวว่า: “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Duck Creek และใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ระดับนานาชาติของผมในด้านประกันภัยทั่วไป ทรัพย์สินและวินาศภัย การทำประกันภัยต่อและนายหน้า เพื่อเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและพันธมิตรของเราในภูมิภาค ความทุ่มเทของ Duck Creek ในการให้บริการลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมประกันภัยนั้นเป็นเรื่องที่น่าประทับใจจริง ๆ ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับทีม Duck Creek ที่มีความสามารถและร่วมงานกับพันธมิตรในระบบนิเวศทางธุรกิจของเรา เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสำหรับบริษัทประกันภัยทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก”

Erickson สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจและปริญญาโทสาขาการจัดการ การเงิน และการจัดการทางการเงินจาก Macquarie Graduate School of Management Erickson จะปฏิบัติงานอยู่ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

เกี่ยวกับ Duck Creek Technologies

Duck Creek Technologies คือผู้ให้บริการโซลูชันอัจฉริยะที่กำหนดอนาคตของทรัพย์สินและอุบัติเหตุ (P&C) และอุตสาหกรรมประกันภัยทั่วไป เราเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สร้างระบบประกันภัยสมัยใหม่ ซึ่งช่วยให้อุตสาหกรรมใช้ประโยชน์จากพลังของระบบคลาวด์เพื่อการดำเนินการที่คล่องตัว ชาญฉลาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความถูกต้อง วัตถุประสงค์ และความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญของ Duck Creek และเราเชื่อว่าการประกันภัยควรมีให้สำหรับบุคคลและธุรกิจในเวลา สถานที่ และเหตุผลที่พวกเขาต้องการมากที่สุด เราจำหน่ายโซลูชันชั้นนำของตลาดแบบแยกเดี่ยวหรือเป็นชุดเต็ม ผ่านทาง Duck Creek OnDemand โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.duckcreek.com ติดตาม Duck Creek บนช่องทางโซเชียลของเราเพื่อรับข้อมูลล่าสุดได้ผ่านทาง – LinkedIn และ X

ติดต่อด้านสื่อ:

Carley Bunch
carley.bunch@duckcreek.com

GlobeNewswire Distribution ID 9147217

Biognosys เปิดตัว Spectronaut 19 และนำเสนอความก้าวหน้าด้วยแพลตฟอร์มการวิจัยของพวกเขาในการประชุม ASMS ประจำปี 2024

  • Spectronaut® 19 มีการปรับปรุงที่สำคัญในด้านการระบุตัวตน การค้นหาตัวเลือก ความสามารถในการปรับขนาดสำหรับการวิเคราะห์ขนาดใหญ่ และการรองรับขั้นตอนการทำงานที่ล้ำยุค
  • วิธี P2 Plasma Enrichment ของ TrueDiscovery® ใหม่ ให้ประสิทธิภาพในระดับชั้นนำของตลาดและความคุ้มทุนที่เหนือกว่าสำหรับโปรตีโอมิกส์ในพลาสมาอย่างละเอียดครอบคลุมและไม่เอนเอียง
  • ขั้นตอนการทำงาน LiP-MS ของ TrueTarget® ใหม่ที่สามารถจัดการตัวอย่างปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วสำหรับการคัดกรองเป้าหมายยาขนาดใหญ่ พร้อมทั้งการระบุเป้าหมายที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
  • ฐานข้อมูลของ DigitalProteome™ และเครื่องมือสำรวจข้อมูลของ Proteoverse™ ช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกทางชีวภาพสำหรับการวิจัยชีวเภสัช

เมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์และเมืองนิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์, June 03, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Biognosys ซึ่งเป็นผู้ประดิษฐ์และผู้พัฒนาชั้นนำของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะด้านโปรตีโอมิกส์ที่ใช้แมสสเปกโทรเมทรี ได้ประกาศการเข้าร่วมงานของบริษัทที่ การประชุมประจำปีของ American Society for Mass Spectrometry (ASMS) ตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน ณ เมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทางบริษัทจะทำการเปิดตัว Spectronaut 19 และนำเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญของซอฟต์แวร์การวิจัยโปรตีโอมิกส์ บริการ และผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะในการดึงข้อมูลเชิงลึกที่เป็นกรรมสิทธิ์ของทางบริษัท

การแสดงตนทางวิทยาศาสตร์ของ Biognosys ประกอบด้วยการสัมมนาพร้อมอาหารเช้า 2 รายการ การนำเสนอปากเปล่า 4 รายการ และการนำเสนอด้วยภาพที่แสดงบนจอขนาดใหญ่ 11 รายการ นอกจากนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ของพวกเขายังจะมาเข้าร่วมที่บูธหมายเลข 314 อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Biognosys จะเข้าร่วมกิจกรรมของ Bruker ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของตน โดยทำการจัดแสดงระบบนิเวศที่ครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะด้านโปรตีโอมิกส์ที่งาน eXceed Symposia ของ Bruker เรื่อง “ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะด้านมัลติโอมิกส์สำหรับยุคสมัยหลังจีโนมิกส์” ในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนและ และยังเสนอห้องรับรอง ให้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 ถึงวันพุธที่ 5 มิถุนายนอีกด้วย

Spectronaut® 19: ปลดปล่อยพลังของปัญญาประดิษฐ์สำหรับการวิเคราะห์ DIA ที่ละเอียด รวดเร็ว และปรับขนาดได้

ซอฟต์แวร์เรือธงของ Biognosys สำหรับการวิเคราะห์ DIA เวอร์ชันล่าสุดนี้ มาพร้อมกับการปรับปรุงที่สำคัญในการระบุระดับเพปไทด์และโปรตีน เพิ่มอัตราการค้นหาตัวเลือกเชิงลึก ความสามารถในการปรับขนาดสำหรับการวิเคราะห์ขนาดใหญ่และการใช้งานในระดับองค์กร และขยายการรองรับขั้นตอนการทำงานที่ล้ำยุค

“แม้ว่านี่จะเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่มีคุณสมบัติครบครันมากที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา แต่การปรับปรุงในด้านการวัดปริมาณใน Spectronaut 19 นั้นต่าง หากที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก” กล่าวโดย ดร. Lukas Reiter ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Biognosys “เราลงทุนไปมากในการทำความเข้าใจการวัดปริมาณให้ดีขึ้น ซึ่งชัดเจนว่าคุ้มค่า ในแง่ของเทคโนโลยี โมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกปรับปรุงแล้วสร้างผลตอบรับที่ดีอย่างมากต่อการเปิดตัวในปีนี้”

มิ.ย.-ศ. ดร. Florian Meier-Rosar จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจนา (UKJ) คณะแพทยศาสตร์กล่าวว่า “Spectronaut นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโครงการ DIA ของเรา ขั้นตอนการทำงานของ directDIA ผสมผสานความง่ายในการใช้งานเข้ากับการวัดปริมาณที่เชื่อถือได้ ซึ่งตรงกับความต้องการของเราในการศึกษาปริมาณโปรตีนและการดัดแปรหลังการแปลรหัสในระดับขนาดใหญ่”

ดร. Yansheng Liu รองศาสตราจารย์ประจำคณะเภสัชวิทยา โรงเรียนแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยลว่า ให้ความเห็นว่า: “Spectronaut เป็นซอฟต์แวร์วิเคราะห์ DIA ที่เราเลือกใช้เนื่องจากประสิทธิภาพที่สูงและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งทำให้การวิเคราะห์ชุดข้อมูล DIA ที่ซับซ้อนและผสมผสานซับซ้อนของเรานั้นทั้งง่ายและน่าเชื่อถือ”

การสัมมนาพร้อมอาหารเช้าของ Biognosys “Spectronaut 19: ปลดล็อกเรื่องราวที่แท้จริงจากข้อมูลของคุณ” ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน มุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวในครั้งนี้โดยเฉพาะ พร้อมด้วยการนำเสนอโดยศาสตราจารย์ Josh Coon จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ในหัวข้อ “การวิเคราะห์โปรตีน DIA จากการถ่ายภาพเดียว: มาตรฐานสำคัญใหม่สำหรับโปรตีโอมิกส์เชิงปริมาณ” และ Denys Oliinyk จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจนา ในหัวข้อ “สู่ฟอสโฟโปรตีโอมิกส์ในมิติสูงด้วยการได้มาซึ่งข้อมูลโดยไม่ขึ้นกับข้อมูลและ µPhos” นอกจากนี้ บริษัทจะนำเสนอการบรรยายปากเปล่า 3 รายการ และการนำเสนอด้วยภาพที่แสดงบนจอขนาดใหญ่ 3 รายการ เพื่อนำเสนอการปรับปรุงล่าสุดใน Spectronaut

TrueDiscovery®: ขณะนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี P2 Plasma Enrichment ที่ก้าวล้ำสำหรับโปรตีโอมิกส์ในพลาสมาอย่างละเอียดครอบคลุมและไม่เอนเอียง

Biognosys กำลังเปิดตัววิธี P2 Plasma Enrichment ใหม่ ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะสำหรับการเพิ่มความเข้มข้นในหลุมเดียว ชนิดอนุภาคเดียว พร้อมประสิทธิภาพระดับชั้นนำของตลาดและความคุ้มทุนที่เหนือกว่า วิธีการนี้ให้การวัดปริมาณที่ยอดเยี่ยมและเพิ่มความสามารถที่สูงขึ้นในการประมวลผลสำหรับการศึกษาค้นหาตัวบ่งชี้ชีวภาพหรือการค้นพบยารวมถึงการวิจัยโปรตีโอมิกส์ทางคลินิก ระบาดวิทยา หรือประชากร ขั้นตอนการทำงาน P2 Plasma Enrichment จะพร้อมใช้งานในรูปแบบของบริการ CRO ผ่านแพลตฟอร์ม TrueDiscovery® ของ Biognosys หรือเป็นวิธีการภายในองค์กรสำหรับผู้ใช้ปลายทางเครื่องแมสสเปกโทรเมทรีประสิทธิภาพสูงผ่านการออกใบอนุญาตใช้งาน

คุณสมบัติทางเทคนิคและข้อมูลประสิทธิภาพจะถูกนำเสนอในวันพุธที่ 5 ระหว่างช่วงการประชุมด้วยการนำเสนอด้วยภาพที่แสดงบนจอขนาดใหญ่ WP 084 และในวันจันทร์ที่ 3 ระหว่างช่วงการสัมมนาอาหารเช้าของ Biognosys จะเป็นช่วง “การเร่งการค้นพบและการพัฒนายาด้วยบริการโปรตีโอมิกส์ยุคถัดไปของ Biognosys” การสัมมนานี้ยังมีการนำเสนอโดย Eric Kuhn จาก Kymera Therapeutics ในหัวข้อ “แนวทางที่ใช้แมสสเปกโทรเมทรีเพื่อการค้นพบและพัฒนายาสำหรับการย่อยสลายโปรตีนเป้าหมายแบบเจาะจง” และ Alan Shomo จาก Biogen ในหัวข้อ “การพัฒนาการทดสอบ CSF LRRK2 เชิงปริมาณเพื่อสนับสนุนการศึกษาวิจัยทางคลินิก”

TrueTarget®: แนะนำขั้นตอนการทำงานจัดการตัวอย่างปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วสำหรับสำหรับการคัดกรองเป้าหมายยาขนาดใหญ่

ความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนายาคืออัตราความล้มเหลวสูงของยาที่เป็นตัวเลือกในการศึกษาวิจัยทางคลินิก การระบุเป้าหมายยาและเป้าหมายอื่นนอกเหนือเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แพลตฟอร์ม TrueTarget® ของ Biognosys ขับเคลื่อนด้วยเทคนิคการแมสสเปกโทรเมทรีโปรตีโอไลซิสแบบจำกัด (LiP-MS) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการระบุเป้าหมายยาแบบไม่เอนเอียง ซึ่งมีให้บริการทั้งงานวิจัยตามสัญญาและตัวเลือกการออกใบอนุญาตสิทธิ์ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานในการคัดกรองขนาดใหญ่ Biognosys ได้พัฒนาเกณฑ์วิธี LiP-MS-HT ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการแยกส่วนเป้าหมายยาที่มีปริมาณงานสูงโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุเป้าหมายได้ดีขึ้นและลดเวลาในการวัด โดยมีความสามารถในการทำซ้ำและความแม่นยำเชิงปริมาณสูง Biognosys จะนำเสนอขั้นตอนการทำงานแบบใหม่ของ LiP-MS-HT ในระหว่างช่วงการประชุม ThOH ปากเปล่า ในวันพฤหัสบดีที่ 6

DigitalProteome™ และ Proteoverse™: แปลงข้อมูลให้เป็นข้อมูลเชิงลึกทางชีววิทยาสำหรับการวิจัยชีวเภสัช

DigitalProteome™ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะด้านข้อมูลเชิงลึกแบบใหม่ของ Biognosys ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการแสดงออกของโปรตีนและเพิ่มประสิทธิภาพการค้นพบตัวบ่งชี้ทางชีวภาพในร่างกายและการศึกษาวิจัยการพัฒนายาอย่างมีนัยสำคัญ ฐานข้อมูลประกอบไปด้วยข้อมูลโปรตีโอมจาก 22 เนื้อเยื่อสุขภาพของมนุษย์ หนู และหนูตัวใหญ่และมาในรูปแบบห้องสมุดแบบพร้อมใช้งานและหาได้ง่าย คุณลักษณะสำคัญของฐานข้อมูล DigitalProteome™ จะได้รับการนำเสนอในวันพุธที่ 5 มิถุนายน ในระหว่างการประชุมด้วยการนำเสนอด้วยภาพที่แสดงบนจอขนาดใหญ่ WP 070 แหล่งข้อมูลนี้จะพร้อมให้บริการสำหรับการวิจัยชีวเภสัชภัณฑ์ผ่านการออกใบอนุญาตใช้งาน

เพื่อให้สามารถเข้าถึงและดำเนินการกับข้อมูลจากข้อมูลแมสสเปกโทรเมทรีที่สมบูรณ์ซึ่งผลิตโดยแพลตฟอร์มบริการการวิจัยของ Biognosys ได้ง่ายยิ่งขึ้น ลูกค้าสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม Proteoverse™ ใหม่ สำหรับการแสดงและการสำรวจข้อมูลเป็นภาพ เพื่อดึงข้อมูลเชิงลึกทางชีวภาพอันมีค่าได้อย่างรวดเร็ว ระบุการวิเคราะห์ที่สำคัญจากโปรตีนหลายพันชนิด สำรวจโครงสร้างระดับเพปไทด์ และตรวจสอบความเกี่ยวข้องทางชีวภาพ เครื่องมือจะถูกนำเสนอนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ระหว่างการประชุมด้วยการนำเสนอด้วยภาพที่แสดงบนจอขนาดใหญ่ ThP 119 ในตอนแรกเครื่องมือนี้จะพร้อมให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายควบคู่ไปกับโครงการวิจัย TrueDiscovery® ของ Biognosys

สามารถชมภาพรวมการมีส่วนร่วมของ Biognosys ในงาน ASMS ได้ที่ https://biognosys.com/asms2024 การนำเสนอด้วยภาพจะพร้อมให้ดาวน์โหลดภายในวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน

เกี่ยวกับ Spectronaut®

Spectronaut คือซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลระดับเรือธงของ Biognosys สำหรับโปรตีโอมิกส์โดยใช้แมสสเปกโทรเมทรี (MS) โดยไม่ขึ้นกับข้อมูล (DIA)

ซอฟต์แวร์นี้ใช้อัลกอริธึมการค้นหาและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงในการแปลงข้อมูลให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้สำหรับงานวิจัยวิทยาศาสตร์ชีวภาพ Spectronaut ช่วยให้สามารถวัดปริมาณโปรตีนหลายพันชนิดได้อย่างแม่นยำและสามารถทำซ้ำได้ในการทดลองเดียวและยังให้ข้อมูลเชิงลึกหลายมิติเกี่ยวกับการแสดงออก การทำงาน และโครงสร้างของโปรตีนในสายพันธุ์ทางชีวภาพและประเภทตัวอย่างหลัก ๆ ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ spectronaut.com

เกี่ยวกับ TrueDiscovery®

แพลตฟอร์ม Biognosys TrueDiscovery เสนอผลิตภัณฑ์โปรตีโอมิกส์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะด้านของเราแบบบูรณาการตลอดจนกระบวนการพัฒนายาทั้งหมด

TrueDiscovery ขับเคลื่อนโดยแมสสเปกโทรเมทรี Hyper Reaction Monitoring (HRM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการวัดปริมาณโปรตีนขั้นสูงที่ใช้ Data Independent Acquisition หรือการได้มาซึ่งข้อมูลโดยอิสระ (DIA) ซึ่งร่วมคิดค้นและจดสิทธิบัตรโดย Biognosys

TrueDiscovery เป็นแพลตฟอร์มเพียงแห่งเดียวที่สามารถค้นหาโปรตีโอมทั้งหมดเพื่อวัดปริมาณโปรตีนที่เกี่ยวข้องมากที่สุดหลายพันตัว รวมถึงรูปแบบของโปรตีน (โปรตีโอฟอร์ม) จำนวนไม่จำกัด แพลตฟอร์มนี้สามารถสร้างข้อมูลของโปรตีโอมในเนื้อเยื่อและของเหลวชีวภาพอย่างละเอียดแบบไม่ลำเอียงด้วยความจำเพาะที่เหนือชั้นในขนาดใหญ่ ข้อมูลที่สร้างขึ้นสามารถทำซ้ำได้สูงและสามารถถ่ายโอนไปยังการตรวจวิเคราะห์ทางคลินิกได้อย่างง่ายดาย สามารถดำเนินการศึกษาวิจัยภายใต้สภาวะที่สอดคล้องกับมาตรฐาน GCP ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ truediscovery.bio

เกี่ยวกับ TrueTarget®

แพลตฟอร์มโปรตีโอมิกส์ของ Biognosys TrueTarget จัดการกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในการค้นพบยาในระยะเริ่มแรก ๆ ได้อย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยการระบุเป้าหมายทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจเพื่อเร่งและลดความเสี่ยงในการพัฒนายาตลอดทั้งกระบวนการ

TrueTarget ขับเคลื่อนโดย Limited Proteolysis Mass Spectrometry (LiP-MS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเคมีบำบัดที่ได้รับสิทธิบัตรและจดสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งได้รับการร่วมพัฒนาโดย Biognosys TrueTarget™ เป็นเครื่องมือเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในโปรตีโอมทั้งหมดด้วยความละเอียดระดับเพปไทด์ ให้ข้อมูลที่ไม่ซ้ำใครเกี่ยวกับการจับกับสารประกอบและการระบุเป้าหมายได้

แพลตฟอร์มนี้สามารถคาดการณ์กลไกการออกฤทธิ์และเปิดเผยความเป็นพิษที่ไม่คาดคิดได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ truetarget.bio

เกี่ยวกับ Biognosys

ที่ Biognosys เราเชื่อว่าข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโปรตีโอมถือเป็นกุญแจสำคัญในการค้นพบที่ก้าวหน้าซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยผลงานที่หลากหลายของเราในด้านโซลูชันโปรตีโอมิกส์แห่งอนาคต รวมถึงแพลตฟอร์มบริการการวิจัย TrueDiscovery®, TrueTarget® และ TrueSignature® ซอฟต์แวร์เรือธงของเรา Spectronaut® และชุดอุปกรณ์ PQ500™ เราทำให้โปรตีโอมสามารถนำไปใช้งานได้เพื่อสนับสนุนการวิจัย การพัฒนายา และการตัดสินใจทางคลินิก ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะด้านของเราให้มุมมองหลายมิติเกี่ยวกับการแสดงออก การทำงาน และโครงสร้างของโปรตีนในสายพันธุ์ทางชีวภาพและประเภทตัวอย่างทั้งหมด เทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์และจดสิทธิบัตรของเราใช้แมสสเปกโทรเมทรีที่มีความละเอียดสูงในการวัดปริมาณโปรตีนหลายพันชนิดด้วยความแม่นยำ ความลึก และปริมาณงานระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Bruker (Nasdaq: BRKR) เราทำให้โปรตีโอมิกส์เข้าถึงได้จากทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ biognosys.com

ดูรูปภาพที่มาพร้อมกับประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/940b0780-73b6-4c45-84f0-3541e3539ee7

การเผยแพร่ฉบับภาษาอังกฤษเป็นเวอร์ชันการเผยแพร่อย่างเป็นทางการและได้รับอนุญาตการแผยแพร่ การแปลนั้นมีไว้เพื่อการทำความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น และควรเปรียบเทียบกับข้อความต้นฉบับ ซึ่งเป็นข้อความที่มีผลทางกฎหมายเท่านั้น

ติดต่อด้านสื่อ

Yves Serroen
หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร
โทร +41 (0) 44 244 50 07
yves.serroen@biognosys.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000964188