นักวิจัยที่ KFSH&RC & KAUST Discover Gene ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการขยายพันธุ์ของสายพันธุ์เชื้อมาลาเรียที่อันตรายที่สุด

กรุงริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, Feb. 07, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — ในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ ทีมวิจัยจาก King Faisal Specialist Hospital and Research Centre (KFSH&RC) ร่วมกับ King Abdullah University of Science and Technology (KAUST) โดยทำงานร่วมกับนักวิจัยจากสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ได้ค้นพบยีนสำคัญที่ใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับโรคมาลาเรีย ยีนนี้มีชื่อว่า PfAP2-MRP มีความสำคัญในกระบวนการจำลองแบบของพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม ซึ่งเป็นปรสิตที่ทำให้เกิดสายพันธุ์มาลาเรียที่ร้ายแรงที่สุด

เทคนิคในห้องปฏิบัติการขั้นสูงช่วยให้นักวิจัยสามารถยับยั้งยีน PfAP2-MRP ได้ ซึ่งเผยให้เห็นบทบาทที่สำคัญในวงจรชีวิตของปรสิตเชื้อมาลาเรียภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง การยับยั้งนี้ขัดขวางความสามารถในการสืบพันธุ์ของปรสิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ลดความรุนแรงของอาการของโรค และลดการแพร่กระจายได้ การค้นพบนี้ส่งผลกระทบอย่างยิ่ง เมื่อกล่าวถึงมาลาเรียชนิดพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่าครึ่งล้านคนต่อปี

ดร. Ashraf Dada ประธานภาควิชาพยาธิวิทยาและเวชศาสตร์ห้องปฏิบัติการที่ King Faisal Specialist Hospital and Research Centre ในเมืองเจดดาห์ และหัวหน้านักวิจัยกล่าวว่า: “การค้นพบนี้ปูทางไปสู่การพัฒนาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม สายพันธุ์เชื้อมาลาเรียที่อันตรายที่สุด” นอกจากนี้ การศึกษาวิจัยครั้งนี้ยังช่วยเพิ่มความเข้าใจในชุมชนวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการดำเนินของโรคอย่าง ต่อเนื่อง และการมีปฏิสัมพันธ์ของโรคกับระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความพยายามในการต่อสู้กับปรสิตเชื้อมาลาเรียที่แพร่กระจายอย่างมากในแอฟริกา

นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ายีน PfAP2-MRP ควบคุมการผลิตตัวรับโปรตีนที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรม ทำให้ปรสิตสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันของโฮสต์ได้ กลไกนี้มีบทบาทสำคัญในการแพร่กระจายของโรคมาลาเรียไปทั่วโลก และตอกย้ำถึงความสำคัญของยีนในการพัฒนากลยุทธ์การรักษาในอนาคต

การศึกษาวิจัยที่สำคัญนี้ได้รับการเผยแพร่ใน “Nature” วารสารอันทรงเกียรติ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง KFSH&RC และ KAUST เพื่อมีส่วนร่วมในกิจกรรมการวิจัยเชิงนวัตกรรม ที่ไม่เพียงแค่ปรับปรุงการวินิจฉัยจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และปรสิตเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงความพยายามระดับโลก ในการต่อสู้กับเชื้อโรคและปรับปรุงสุขภาพของมนุษย์

King Faisal Specialist Hospital and Research Centre เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง การขับเคลื่อนนวัตกรรม และการดำเนินการในฐานะศูนย์กลางการวิจัยและการศึกษาทางการแพทย์ขั้นสูง โรงพยาบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้ก้าวหน้า และยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพทั่วโลก ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสถาบันที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และนานาชาติ

เกี่ยวกับ King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC):

King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC) ถือเป็นสถาบันดูแลสุขภาพชั้นนำในตะวันออกกลาง โดยมีเจตจำนงที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยทุกรายที่กำลังต้องการการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง โรงพยาบาลแห่งนี้มีประวัติอันยาวนานในการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ ประสาทวิทยาศาสตร์ และพันธุศาสตร์

ในปี 2023 “Brand Finance” ได้จัดอันดับให้ King Faisal Specialist Hospital & Research Centre เป็นศูนย์วิชาการทางการแพทย์ชั้นนำในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา และติดหนึ่งใน 20 อันดับแรกของโลกด้วย นอกจากนี้ ในปี 2022 เรายังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำระดับโลกจากนิตยสาร Newsweek

มีการออกพระราชกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2021 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Saudi Vision 2030 เพื่อปฏิรูปโรงพยาบาลให้เป็นองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ซึ่งปูทางไปสู่โครงการปฏิรูปที่ครอบคลุม เพื่อบรรลุผลสำเร็จในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านการดูแลสุขภาพ ผ่านความเป็นเลิศและนวัตกรรม

สามารถดูภาพประกอบสำหรับประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/38b3fbef-fece-4a76-b326-2d57ab1b16ba

ข้อมูลติดต่อ 
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
นาย Essam Al-Zahrani หัวหน้าฝ่ายสื่อ 0555254429
นาย Abdullah Al-Awn เจ้าหน้าที่ประสานงานสื่อ 0556294232

GlobeNewswire Distribution ID 9033396

ผู้นำด้านความหรูหรา: บริษัท Automobili Pininfarina ได้รับการยอมรับด้วยรางวัลการันตีระดับสากลถึงสามรางวัล

  • Automobili Pininfarina เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการคว้ารางวัลหลายรายการในสาขาการออกแบบยานยนต์
  • รถยนต์ PURA Vision ได้รับรางวัลเหรียญเงินในสาขา Conceptual Products / Automotive & Transport Product Design ในการจัดงานมอบรางวัล International Design Awards
  • Automobili Pininfarina ได้รับรางวัล ‘Luxury Electric Performance Car Manufacturer of the Year 2024’ ที่จัดโดยนิตยสาร LUXlife Magazine
  • รถยนต์สุดหรู Battista Edizione Nino Farina คว้ารางวัล Best Electric Hypercar ในการจัดงานมอบรางวัล Car of the Year 2024 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร Robb Report Monaco & Côte d’Azur
  • สามารถดูรายละเอียดประกอบข้อมูลข่าวที่ครบถ้วนได้ที่นี่

CAMBIANO, อิตาลี, Feb. 07, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — บริษัท Automobili Pininfarina เปิดศักราชปี 2024 ด้วยการคว้าสามรางวัล บริษัทต่อยอดความสำเร็จโดยการทำลายสถิติในผลงานความสำเร็จของปีก่อน

นิตยสาร LUXlife Magazine ได้ยกให้บริษัท Automobili Pininfarina เป็น ‘Luxury Electric Performance Car Manufacturer of the Year 2024 (ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงสุดหรูแห่งปี 2024)’ ในงานประกาศรางวัลประจำปี

เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จและความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่นที่ไม่ธรรมดาและหาตัวจับยากในขอบเขตด้านความหรูหรา นิตยสาร LUXlife ได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติในด้านความเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกที่ให้คำนิยามใหม่ของความเป็นเลิศภายในวงการรถยนตร์โดยการกำหนดมาตรฐานที่สูงขึ้นในความล้ำสมัยและความสง่างาม Automobili Pininfarina คว้ารางวัลในสาขา ‘Leaders in Luxury (ผู้นำด้านความหรูหรา)’

ตามมาด้วยอีกรางวัลหนึ่งสำหรับแนวคิดการออกแบบรถยนต์ PURA Vision ซึ่งได้รับเหรียญเงินในสาขา Conceptual Products / Automotive & Transport Product Design ในการจัดงานมอบรางวัล 2024 International Design Awards

รถยนต์ไฟฟ้า PURA Vision ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคปฏิวัติสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูซึ่ง Dave Amantea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการออกแบบได้ระบุไว้ มีการเปิดตัวในงาน 2023 Monterey Car Week

Dave Amantea, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการออกแบบ (Chief Design Officer) ได้กล่าวไว้ว่า: “ปรัชญาการออกแบบรถยนต์ Our PURA ของเรา คือ ความเรียบง่ายและความงามเหนือกาลเวลา ซึ่งได้ออกแบบมาเป็นรถยนต์ของ Automobili Pininfarina ทุกรุ่น ความหรูหราที่สง่างามและสัดส่วนที่อลังการสื่อถึงความหมายนี้ในรถยนต์ PURA Vision ซึ่งในที่นี้มองเห็นได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท Luxury Utility Vehicle (e-LUV) สุดหรูคันแรกของโลก”

หลักการด้านปรัญชาของรถยนต์ PURA ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Automobili Pininfarina นั้นได้เปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของรุ่นรถยนต์ที่โดดเด่นของ Pininfarina SpA ในอดีตเพื่อกำหนดอนาคต โดยการสร้างสมดุลแรงบันดาลใจระหว่างรถยนต์คลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์กับองค์ประกอบรถยนต์เพื่ออนาคต

ด้วยแรงบันดาลใจจากสัดส่วนแบบคลาสสิกและรายละเอียดอันวิจิตรบรรจง รถยนต์ไฟฟ้า PURA Vision จึงมีรูปทรงที่หรูหราพร้อมสัดส่วนของแค็ปหลังที่โดดเด่น ผสมผสานความงามเหนือกาลเวลาเข้ากับรายละเอียดอันวิจิตรงดงาม สร้างเอกลักษณ์เชิงพลวัตรพร้อมด้วยตัวตนที่แน่แท้ไม่ผิดเพี้ยน สิ่งอำนวยความสะดวกที่ชวนตะลึง ได้แก่ เรือนกระจกแคบ และประตูบานเปลือยสามบาน ซึ่งช่วยให้เข้าถึงห้องโดยสารอันหรูหราได้อย่างมากที่สุด

ล่าสุด บริษัท Automobili Pininfarina Battista Edizione Nino Farina ได้รับรางวัล Best Electric Hypercar ในการจัดงานมอบรางวัล Car of the Year 2024 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร Robb Report Monaco & Côte d’Azur โดยมีการเปิดตัวที่งาน Goodwood Festival of Speed ​​ปี 2023 เพื่อเป็นเกียรติแก่นักขับรถแข่งระดับตำนาน นั่นก็คือ Nino Farina ซึ่งเป็นหลานชายของ Battista ‘Pinin’ Farina ผู้ก่อตั้งบริษัท และเป็นแชมป์โลก Formula One คนแรก

ตัวอย่างที่ไม่เหมือนใครในทั้งห้าตัวอย่างจะให้รายละเอียดซึ่งอ้างอิงถึงเหตุการณ์สำคัญที่แตกต่างกันในอาชีพนักแข่งรถของ Nino เคลือบเงาด้วยสี Rosso Nino ที่ต้องการ เสริมด้วยลวดลายพิเศษบนตัวถังล่าง เคลือบด้วยสี Bianco Sestriere และ Iconica Blu ปิดท้ายดีไซน์ภายนอกด้วยล้ออัลลอย Glorioso อะลูมิเนียมฟอร์จ 10 ก้านสีซาตินโกลด์ (Satin Gold)

ติดต่อสื่อประชาสัมพันธ์

Duncan Forrester
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการสื่อสาร
(M) +49 (0) 171 265 4094
d.forrester@automobili-pininfarina.com
Akira Shinonuma
ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสาร
(M) +49 (0) 1511 0949270
a.shinonuma@automobili-pininfarina.com

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปยัง
https://automobili-pininfarina.com/media-hub

หมายเหตุของบรรณาธิการ

เกี่ยวกับบริษัท AUTOMOBILI PININFARINA
บริษัท Automobili Pininfarina มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านยานยนต์จากแบรนด์รถหรูและระดับพรีเมียม รถยนต์ Battista hyper GT ที่ได้รับการออกแบบ วิศวกรรม และผลิตโดยช่างฝีมือในอิตาลี และรถยนต์ในอนาคตทุกรุ่นจะวางจำหน่ายในตลาดหลักทุกแห่งทั่วโลกภายใต้แบรนด์ Pininfarina บริษัทมีเป้าหมายที่จะออกแบบสำหรับผู้ที่ชอบลิ้มลองประสบการณ์ระดับแนวหน้าของโลก Automobili Pininfarina GmbH เป็นการลงทุนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในกิจการของบริษัท Mahindra & Mahindra Ltd หลังจากการลงนามในข้อตกลงใบอนุญาตเครื่องหมายการค้าระหว่าง Pininfarina S.p.A. และ Mahindra & Mahindra Ltd. Pininfarina S.p.A. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการออกแบบและกำลังการผลิตโดยยึดจากประสบการณ์ 94 ปีของบริษัทที่มีเอกลักษณ์ในการผลิตรถยนต์ที่โดดเด่นที่สุดของโลกจำนวนมากมาย

สามารถดูภาพประกอบการประกาศนี้ได้ที่:
https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/666e6473-ad48-44a4-b8b4-63370c5905ba
https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/4e3f2da6-e216-479c-97fd-4f672a1d3e87
https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/5528a50f-f9b1-44f9-8a6f-486535076509

GlobeNewswire Distribution ID 1000912370

NOCC: Sports Boost Health, Friendship, Peace and Economy


Sports are considered as a movement not only to improve health, build peace, and enhance the spirit of friendship and solidarity but also to further boost the economy.

The note was highlighted by H.E. Vath Chamroeun, Secretary of State at the Ministry of Education, Youth and Sports and Secretary General of the National Olympic Committee of Cambodia (NOCC) in a press conference on Women Run 10K, at the NOCC’s headquarters in Phnom Penh on Feb. 6.

H.E. Vath Chamroeun continued that the ministry and NOCC are working hard in pushing for the promotion of people’s welfare through sport activities.

For the ASEAN region, he continued, the bloc always train its physical education and sports officials to help inspire the ASEAN people to play sports. Sports makes ASEAN people healthy, contributing to the region’s strong economic force, he underlined.

The NOCC secretary general also underscored the Royal Government of Cambodia’s goal to establish 100 model schools in 2024 whose key principles also focus on sports.

S
ource: Agence Kampuchea Presse

Cambodian PM Pays Courtesy Call on Thai Senate President


Cambodian Prime Minister Samdech Moha Borvor Thipadei Hun Manet this afternoon paid a courtesy visit to H.E. Pornpetch Wichitcholchai, President of the Thai Senate, during his day-long official visit to Bangkok, Thailand.

On the occasion, H.E. Pornpetch Wichitcholchai warmly welcomed Samdech Thipadei Hun Manet’s official visit, and recalled the good cooperation between the two countries. He was convinced that under the leadership of Samdech Thipadei, the cooperation between Cambodia and Thailand will be further strengthened and expanded.

H.E. Pornpetch Wichitcholchai also expressed his congratulations to Samdech Rathsapheathika Thipadei Khuon Sudary on her appointment as the President of the Cambodian National Assembly, and extended his greetings to Samdech Akka Moha Sena Padei Techo Hun Sen, former Prime Minister of Cambodia.

For his part, Samdech Thipadei Hun Manet praised the good cooperation within the legislative and executive framework between the two countries.

The Cambodian Premier briefed H.E. P
ornpetch Wichitcholchai on the results of his bilateral meeting with his Thai counterpart H.E. Srettha Thavisin, during which both sides agreed to upgrade the level of their bilateral ties from ‘Strengthening Partnership for Peace and Prosperity’ to ‘Strategic Partnership’ and were committed to boost the cooperation between the two neighbouring nations in the sectors of common interest, including trade and investment, energy security, mine clearance, labour, education, tourism, and cross-border crimes.

Source: Agence Kampuchea Presse

Cambodia, ICRC Vow to Tighten Bilateral Relations


The Ministry of Interior (MoI) and the International Committee of the Red Cross (ICRC) have vowed to further strengthen and expand the relations and cooperation between the two bodies.

The commitment was highlighted in a meeting between Deputy Prime Minister and Minister of Interior H.E. Aphi Santepundit Sar Sokha and Head of Mission of the ICRC in Cambodia Mrs. Dena Fisher here in Phnom Penh on Feb. 5.

H.E. Aphi Santepundit Sar Sokha expressed his deep gratitude to the ICRC for assisting Cambodia with a range of humanitarian activities since 1993, including assistance for prisons and rehabilitation centres.

Ms. Dena Fisher thanked H.E. Sar Sokha for the good cooperation, stressing that the assistance and support that the ICRC has provided to the Ministry of Interior for the past 30 years also aim to further improve the condition of the prisons and rehabilitation centres.

Source: Agence Kampuchea Presse